หมวดที่ 1

ความทั่วไป

ข้อ 1     สมาคมนี้มีชื่อว่า  “สมาคมประสาทการนอนหลับ” โดยมีอักษรย่อว่า  สปน.

          มีชื่อภาษาอังกฤษ  “Sleep Neurology Association”โดยมีอักษรย่อว่า SNA.

ข้อ 2     เครื่องหมายของสมาคมฯ เป็นรูป

Sleep2

ความหมาย

  • รูปคนนอนที่ออกแบบหลากสี สื่อถึงการรวมตัวหรือการต่อตั้งสมาคมประสาทการนอนหลับที่เกิดขึ้นจากหลากหลายสาเหตุ
  • การรวมตัวของรูปสื่อถึงสิ่งผิดปกติในการนอนหลับ

ข้อ 3     สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ ณ  สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย  อาคารเฉลิมพระ                

          บารมี 50 ปี   เลขที่ 2 ซอยศูนย์วิจัย  แขวงบางกะปิ  เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

ข้อ 4     วัตถุประสงค์ของสมาคม เพื่อ

1) สนับสนุนการศึกษา และการฝึกอบรม รวมทั้งเผยแพร่วิทยาการเกี่ยวกับความผิดปกติจากการ       

นอนหลับทางระบบประสาท และความผิดปกติจากการนอนหลับอื่นๆ และ/หรือวิทยาการที่    

มีความเกี่ยวข้องกันให้ก้าวหน้าและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ

2) ส่งเสริมความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีต่อกันในระหว่างสมาชิก

  3) ส่งเสริมการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์

4) ช่วยเหลือแนะนำให้ความรู้หรือคำบรรยายแก่ประชาชนรวมทั้งสนับสนุนการวิเคราะห์หรือวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับโรคการนอนหลับที่เกี่ยวกับความผิดปกติของระบบประสาทและการนอนหลับผิดปกติอื่นๆ

5) เป็นสื่อกลางประสานการติดต่อ ร่วมมือกับสถาบัน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เกี่ยวข้องทั้ง

ในและต่างประเทศ

6) ดำเนินการอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมืองแต่

อย่างใด

7) สนับสนุนการฝึกอบรมแก่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยาการนอนหลับ

8) สนับสนุนการร่างหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการนอนหลับโดยเฉพาะในส่วนเกี่ยวกับการนอนหลับผิดปกติทางด้านประสาทวิทยา  โดยทำงานร่วมมือภายใต้ราชวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมนั้น

หมวดที่ 2

                                                      สมาชิก

ข้อ5  สมาชิกของสมาคมมี 2 ประเภท  คือ

5.1สมาชิกสามัญ   ได้แก่ แพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม 

5.2 สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ บุคคลทั่วไปที่มีวิชาชีพทางการแพทย์ ซึ่งมีความคิดเห็นสอดคล้องกับ

วัตถุประสงค์และสมัครเข้าเป็นสมาชิกตามระเบียบข้อบังคับของสมาคม

5.3สมาชิกกิตติมศักดิ์ได้แก่ บุคคลผู้ทรงเกียรติ ผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีอุปการคุณต่อสมาคม

ซึ่งคณะกรรมการบริหารของสมาคม มีมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคม

ข้อ6  สมาชิกจะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ  ดังต่อไปนี้

  •  เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
    •  เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
    •  ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ
    •  ไม่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย  หรือไร้ความสามารถ หรือเสมือน    

ไร้ความสามารถหรือต้องโทษจำคุก ยกเว้นความผิดฐานประมาทหรือลหุโทษการต้องคำพิพากษา          ของศาลถึงที่สุด ในกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นในขณะที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือในระหว่างที่เป็น   สมาชิกของสมาคมเท่านั้น

ข้อ7     ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคม

7.1 สมาชิกสามัญ           จะต้องเสียค่าลงทะเบียนเป็นครั้งแรก       200   บาท

ค่าบำรุงสมาคมเป็นรายเดือน ๆ ละ…………………………..-…….. บาท

หรือค่าบำรุงเป็นรายปี ๆ ละ……………………………………-……..  บาท

7.2 สมาชิกกิตติมศักดิ์     มิต้องเสียค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ข้อ 8     การสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคมต่อเลขานุการ  โดยมีสมาชิกสามัญรับรองอย่างน้อย 1 คน  และให้เลขานุการติดประกาศรายชื่อผู้สมัครไว้  ณ สำนักงานของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้สมาชิก อื่นๆ ของสมาคมจะได้คัดค้านการสมัครนั้นเมื่อครบกำหนดประกาศแล้วก็ให้เลขานุการนำใบสมัคร และหนังสือคัดค้านของสมาชิก (ถ้ามี) เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติว่าจะรับ หรือไม่รับเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมและเมื่อคณะกรรมการพิจารณาการสมัครแล้ว ผลเป็นประการใด ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งให้ผู้สมัครทราบโดยเร็ว

ข้อ9    ถ้าคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติให้ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก ก็ให้ผู้สมัครนั้นชำระเงินค่าลงทะเบียน

และค่าบำรุงสมาคม  ให้เสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากเลขานุการ และสมาชิกภาพของผู้สมัครให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้สมัครได้ชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าผู้สมัครไม่ชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงภายในกำหนด  ก็ให้ถือว่าการสมัครคราวนั้นเป็นอันยกเลิก ข้อ 10สมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนังสือตอบรับคำเชิญของผู้ที่คณะกรรมการ ได้พิจารณาลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ได้มาถึงยังสมาคม

ข้อ 10 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ให้ผู้ที่คณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมมีหนังสือตอบรับคำเชิญของคณะกรรมการ ทั้งนี้การเป็นสมาชิกให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่มีหนังสือตอบรับคำเชิญของผู้รับเชิญได้มาถึงสมาคม

ข้อ11   สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้

11.1  ตาย

11.2  ลาออก  โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้

       พิจารณาอนุมัติ และสมาชิกผู้นั้นได้ชำระหนี้สินที่ยังติดค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย

11.3  ขาดคุณสมบัติสมาชิก

11.4  ที่ประชุมใหญ่ของสมาคม หรือคณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน

      เพราะสมาชิกผู้นั้นได้ประพฤตินำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม

ข้อ12   สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก

12.1  มีสิทธิเข้าใช้สถานที่ของสมาคมโดยเท่าเทียมกัน

12.2  มีสิทธิเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของสมาคมต่อคณะกรรมการ

12.3  มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่างๆ ที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น

12.4  มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม

12.5  สมาชิกสามัญมีสิทธิในการเลือกตั้ง หรือได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งเป็นกรรมการสมาคมและมีสิทธิออกเสียงลงมติต่างๆ ในที่ประชุมได้คนละ 1 คะแนนเสียง

12.6  มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบเอกสารและบัญชีทรัพย์สินของสมาคม

12.7  มีสิทธิเข้าชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 3  ของสมาชิกสามัญทั้งหมดร้องขอต่อคณะกรรมการ

ให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญได้

12.8  มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติ และข้อบังคับของสมาคมโดยเคร่งครัด

12.9  มีหน้าที่ประพฤติตนให้สมกับเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาคม

12.10 มีหน้าที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจการต่างๆ ของสมาคม

12.11 มีหน้าที่ร่วมกิจกรรมที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น

12.12 มีหน้าที่ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

หมวดที่ 3

การดำเนินการสมาคม

ข้อ ๑๓. ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อย ๙ คน อย่างมากไม่เกิน ๑๕ คน โดยคณะกรรมการ ๙ คนได้มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม และหากมีกรรมการเพิ่มกว่านี้ จะมาจากการแต่งตั้งโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการสมาคม   คณะกรรมการที่ได้มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม  เลือกตั้งกันเองเป็นนายกสมาคม ๑ คน อุปนายก ๒ คน และตำแหน่งอื่นๆตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ซึ่งตำแหน่งของกรรมการสมาคมมีตำแหน่งและหน้าที่โดยสังเขปดังต่อไปนี้

         13.1 นายกสมาคม                         ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคลภายนอกและทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการและการประชุมใหญ่ของสมาคม

                                        13.2อุปนายก                            ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม

ปฏิบัติตามหน้าที่ที่นายกสมาคมได้มอบหมายและทำหน้าที่แทนนายกสมาคม  เมื่อนายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่แทนนายกสมาคมให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน

            13.3เลขาธิการ                          ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมดเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคมและปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคมตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขาธิการ ในการประชุมต่างๆ ของสมาคม

                                    13.4เหรัญญิก                           มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคมเป็นผู้จัดทำบัญชี

รายรับรายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคมและเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ

13.5ปฏิคม                                มีหน้าที่ในการให้การต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียมสถานที่ของสมาคมและจัดเตรียมสถานที่ประชุมต่างๆ ของสมาคม

          13.6 นายทะเบียน                       มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคมประสานงานกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงสมาคมจากสมาชิก

          13.7ประชาสัมพันธ์                     มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

          13.8 กรรมการตำแหน่งอื่นๆ          ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้น โดยมีจำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้วจะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนดตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง

ข้อ 14 คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ในตำแหน่งได้คราวละ  2  ปี นับจากวันเลือกตั้งที่ประชุมใหญ่และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนดตามวาระแล้ว แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการ ก็ให้คณะกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระรักษาการไปพลางก่อนจนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการ และเมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการ ชุดใหม่ให้เป็นที่เสร็จสิ้น ภายใน 30วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการ

ข้อ 15  ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดตามวาระก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น  แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น และถ้าเป็นตำแหน่งนายกสมาคมว่างก็ให้คณะกรรมการเลือกกันเองเป็นนายกสมาคม

ข้อ16  กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้ คือ

16.1  ตาย

16.2  ลาออก

16.3  ขาดจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับและตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้

16.4  ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตำแหน่ง

16.5  เป็นผู้มีความประพฤติและปฏิบัติตนเป็นที่เสื่อมเสียและคณะกรรมการสมาคมมีมติให้ออก

          โดยมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของคณะกรรมการของสมาคม

ข้อ17  กรรมการที่ประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการให้ยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรต่อ

คณะกรรมการและคณะกรรมการมีมติให้ออก

ข้อ18   อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ

18.1  มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัด

       ต่อข้อบังคับฉบับนี้

18.2  มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม

18.3  มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้  แต่กรรมการที่ปรึกษา หรือ

อนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง

18.4  มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ

18.5  มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่นๆ ที่ยังมิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้

18.6  มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตลอดจนมีอำนาจอื่นๆ 

ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้

18.7  มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม

18.8  มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ตามที่สมาชิกสามัญ จำนวน 1 ใน 3  ของสมาชิก

ทั้งหมดได้เข้าชื่อร้องขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญขึ้น ซึ่งการนี้จะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ

18.9  มีหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สินและการดำเนิน

กิจกรรมต่างๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและสามารถจะให้สมาชิกตรวจดูได้เมื่อสมาชิกร้องขอ

18.10จัดทำบันทึกการประชุมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิก  

        ได้รับทราบ

  18.11มีหน้าที่อื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้

ข้อ 19  คณะกรรมการจะต้องประชุมกันอย่างน้อย  3  เดือนครั้ง  โดยให้จัดขึ้นภายอาทิตย์ที่ 2 หรือ 3 ของทุกๆ เดือน ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม

         ข้อ 20   การประชุมคณะกรรมการ จะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดจึงจะถือว่าครบองค์ประชุมมติของที่ประชุมคณะกรรมการ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ21  ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ให้กรรมการที่เข้าประชุมในคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น

หมวดที่ 4

การประชุมใหญ่

ข้อ22  การประชุมใหญ่ของสมาคมมี 2ชนิด  คือ

22.1  การประชุมใหญ่สามัญ

22.2 การประชุมใหญ่วิสามัญ

ข้อ 23  คณะกรรมการจะต้องจัดให้การประชุมใหญ่สามัญประจำปีๆ ละ 1ครั้งไม่เกินเดือนธันวาคมของ  

            ทุกๆปี

ข้อ24  การประชุมใหญ่วิสามัญ อาจจะมีขึ้นได้ก็โดยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้น หรือเกิดขึ้นด้วยการเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3  ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการของสมาคมให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญก็ได้ ในหนังสือร้องขอนั้นต้องระบุว่าประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อการใด เมื่อคณะกรรมการของสมาคมได้รับหนังสือร้องขอให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญตามวรรคแรก  ให้คณะกรรมการของสมาคมเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ  โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ   ถ้าคณะกรรมการของสมาคมไม่เรียกประชุมภายในระยะเวลาตามวรรคสอง สมาชิกที่เป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมหรือสมาชิกอื่นรวมกันมีจำนวนไม่น้อยกว่าจำนวนสมาชิกที่กำหนดตามวรรคแรกจะเรียกประชุมเองก็ได้

ข้อ25  การแจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้สมาชิกได้ทราบและการแจ้งจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุวัน เวลาและสถานที่ให้ชัดเจน โดยจะต้องแจ้งให้สมาชิกได้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน  และประกาศแจ้งกำหนดนัดประชุมไว้ ณ สำนักงานของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนถึงกำหนดประชุมใหญ่หรือลงพิมพ์โฆษณาอย่างน้อยสองคราวในหนังสือพิมพ์ที่แพร่หลายในท้องที่ฉบับหนึ่งก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 วันก็ได้ 

ข้อ26  การประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้

26.1  แถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี

26.2 แถลงบัญชีรายรับ รายจ่ายและบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้สมาชิกรับทราบ

26.3 เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เมื่อครบกำหนดวาระ

26.4 เลือกตั้งผู้สอบบัญชี

26.5 ตรวจสอบทะเบียนสมาชิกให้เป็นปัจจุบัน

26.6 เรื่องอื่นๆ ถ้ามี

ข้อ27  การประชุมใหญ่สามัญประจำปีหรือการประชุมใหญ่วิสามัญ ต้องมีสมาชิกสามัญมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งหรือไม่น้อยกว่า 30  คน จึงจะครบองค์ประชุมหากถึงกำหนดเวลาการประชุมแล้วสมาชิกยังไม่ครบองค์ประชุมถ้าการประชุมใหญ่ครั้งนั้นเป็นการประชุมใหญ่ตามคำเรียกร้องของสมาชิกก็ให้งดการประชุมแต่ถ้าเป็นกรณีการประชุมใหญ่ที่คณะกรรมการสมาคมเป็นผู้เรียกประชุม ก็ให้เรียกประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่งโดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรกการประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจะต้องครบองค์ประชุม

ข้อ 28  การลงมติต่างๆ ในที่ประชุมใหญ่ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นก็ให้ถือคะแนนเสียงข้าง

มากเป็นเกณฑ์แต่ถ้าคะแนนเสียงที่ลงมติมีคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ29  ในการประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่มาร่วมประชุมหรือไม่

        สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ให้ที่ประชุมใหญ่ทำการเลือกตั้งกรรมการที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่งให้ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น

หมวดที่ 5

การเงินและทรัพย์สิน

ข้อ 30   การเงินและทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ถ้ามีเงินสดของสมาคมฯให้นำฝากไว้ในธนาคารในบัญชีชื่อ “สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย เพื่อชมรมการนอนหลับผิดปกติ”

ข้อ31  การลงนามในตั๋วเงินหรือเช็คของสมาคมจะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคมหรือผู้ทำการแทน

          ลงนามร่วมกับเหรัญญิกหรือเลขาธิการพร้อมกับประทับตราของสมาคมจึงจะถือว่าใช้ได้

ข้อ 32  ให้นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน20,000บาท (สองหมื่นบาทถ้วน)           

          ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการและคณะกรรมการจะอนุมัติให้จ่ายเงินได้

ข้อ 33 ให้เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดของสมาคมได้ไม่เกิน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) 

ถ้าเกินกว่าจำนวนนี้ จะต้องนำฝากธนาคารในบัญชีของสมาคมทันทีที่โอกาสอำนวยให้

ข้อ34  เหรัญญิก จะต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายและบัญชีงบดุลให้ถูกต้องตามหลักวิชาการการรับ     

                   หรือจ่ายเงินทุกครั้งจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของนายกสมาคมหรือผู้ทำการแทน    

                   ร่วมกับเหรัญญิกหรือผู้ทำการแทนพร้อมกับประทับตราของสมาคมทุกครั้ง

ข้อ 35   ผู้สอบบัญชี จะต้องมิใช่กรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต

ข้อ 36   ผู้สอบบัญชี มีอำนาจหน้าที่จะเรียกเอกสารที่เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการและ     

          สามารถจะเชิญกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับบัญชีและทรัพย์สินของ  

          สมาคมได้

ข้อ37   คณะกรรมการจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี เมื่อได้รับการร้องขอ

หมวดที่6

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคม

ข้อ38   ข้อบังคับของสมาคมจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่เท่านั้น และองค์ประชุมใหญ่จะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด มติของที่ประชุมใหญ่ในการให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับ จะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2ใน 3ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด

ข้อ 39   การเลิกสมาคมจะเลิกได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ยกเว้นเป็นการเลิกเพราะเหตุของ

กฎหมายมติของที่ประชุมใหญ่ที่ให้เลิกสมาคมจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า3ใน 4ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด และองค์ประชุมใหญ่จะต้องไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด

ข้อ 40  เมื่อสมาคมต้องเลิก ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลืออยู่หลังจากที่ได้ชำระบัญชี

เป็นที่เรียบร้อยแล้วให้ตกเป็นของ“มูลนิธิเพื่อโรคระบบประสาท”ซึ่งมีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงหรือการกุศลอื่นๆ  ตามแต่ที่ประชุมใหญ่จะเห็นสมควร

หมวดที่ 7

บทเบ็ดเตล็ด

ข้อ 41  การตีความข้อบังคับของสมาคม หากเป็นที่สงสัยให้ที่ประชุมใหญ่โดยเสียงข้างมากของที่ประชุม

ชี้ขาด

ข้อ 42   ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยสมาคมมาใช้บังคับ ในเมื่อข้อบังคับ     

           ของสมาคมมิได้กำหนดไว้ และหากมีข้อบังคับใดขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ให้ถือ 

          ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ข้อ 43   สมาคมต้องไม่ดำเนินการหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน หรือเพื่อบุคคลใดนอกจากเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมเอง

หมวดที่ 8

บทเฉพาะกาล

ข้อ44   ข้อบังคับฉบับนี้นั้น ให้เริ่มใช้บังคับได้นับตั้งแต่วันที่สมาคมได้รับการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเป็นต้นไป

ข้อ45   เมื่อสมาคมได้รับการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจากทางราชการ ก็ให้ถือว่าผู้เริ่มการทั้งหมดเป็นสมาชิกสามัญและสมาชิกภาพของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เริ่มตั้งแต่วันจดทะเบียนเป็นต้นไป

  (ลงชื่อ) ……………………………………………… ผู้จัดทำข้อบังคับ

           (พอ.(พิเศษ)ดร.นพ.โยธิน   ชินวลัญช์